ผศ.ดร.นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลการวิจัยของเด็กไทยในโรงเรียน ปี 2547 อายุระหว่าง 13 ถึง 15 ปี พบว่า ร้อยละ 13.8 สูบบุหรี่ ร้อยละ 48.3 มีผู้ปกครองที่สูบบุหรี่ ร้อยละ 68.5 สัมผัสกับควันบุหรี่ในที่ต่าง ๆ นอกบ้าน ร้อยละ 43.7 มีของใช้ที่เป็นโลโกบุหรี่ ร้อยละ 11.5 เคยได้รับแจกบุหรี่จากผู้แทนบริษัทบุหรี่ ร้อยละ 44.8 สามารถซื้อบุหรี่จากร้านขายได้ ทั้งที่ เป็นการขายที่ผิดกฎหมาย ข้อมูลนี้แสดงว่าเด็กไทยยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการทดลองสูบบุหรี่จนเกิดการเสพติด
รศ.ดร.บุปผา ศิริรัศมี สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากผลการวิจัยเรื่องปัจจัยทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นไทย รอบที่ 2 ปี 2549 อายุระหว่าง 13 – 17 ปี พบว่า วัยรุ่นไทยทั้งชายและหญิง มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจในรอบที่ 1 (2548) โดยวัยรุ่นชายมีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 20.3 เป็นร้อยละ 27.8 และวัยรุ่นหญิง มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 1.5 เป็นร้อยละ 2.3 สาเหตุมาจากอิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมทางสังคม เช่น มีเพื่อนสนิทสูบบุหรี่ มีสมาชิกในครอบครัวสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้เห็นการโฆษณาบุหรี่ ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นและส่งเสริมให้วัยรุ่นสูบบุหรี่ รวมทั้งการซื้อบุหรี่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แม้จะอายุยังไม่ถึง 18 ปี เพื่อนสนิทมีอิทธิพลต่อการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นอย่างมาก การปฏิเสธเมื่อเพื่อนสนิทยื่นบุหรี่ให้ ทำได้น้อยมาก ภาพคำเตือนด้านสุขภาพบนซองบุหรี่ ทำให้เยาวชนคิดถึงอันตรายจากการสูบบุหรี่มากขึ้น
ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของประชากรไทย พ.ศ.2550 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่เป็นประจำในปี พ.ศ.2550 เท่ากับ 9.48 ล้านคน ลดลงจากปี พ.ศ.2549 ประมาณ 5 หมื่นคน แต่ที่สำคัญ คือ สถิติการสูบบุหรี่ของเยาวชนไทยกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยเยาวชนอายุ 11 - 14 ปี มีจำนวน 7,335 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 0.18 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับ ร้อยละ 38.46 สำหรับกลุ่มอายุ 15 - 18 ปี มีจำนวน 228,219 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 5.03 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับร้อยละ 12.72 ส่วนเยาวชนอายุระหว่าง 19 - 24 ปี มีจำนวน 1,042,502 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 17.37 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับร้อยละ 10.52
“เยาวชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.25 ซื้อบุหรี่เป็นมวน และร้อยละ 93.60 ของเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถซื้อบุหรี่โดยผู้ขายไม่ได้ขอดูบัตรประชาชน เยาวชนส่วนใหญ่ร้อยละ 91 ซื้อบุหรี่จากร้านค้าใกล้บ้าน และใช้จ่ายวันละ 12.58 บาทต่อวันในการซื้อบุหรี่ ดังนั้นเยาวชนทั้งประเทศเผาผลาญเงินไปกับค่าบุหรี่ต่อวันถึง 20.3 ล้านบาท และพบว่าเยาวชนเหล่านี้ ร้อยละ 2.19 ที่สูบบุหรี่ที่ไม่มีภาพคำเตือน เป็นผลให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากภาษีบุหรี่ไปถึงวันละ 6.9 ล้านบาท หรือปีละไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท” ผศ.ดร.ลักขณา กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น